ดินที่ใช้ในการปลูกเลี้ยงโกส ดินที่ใช้ในการปลูกเลี้ยงโกสน
ดินที่ใช้ปลูกโกสนเพื่อให้ได้ลักษณะโกสนที่งดงามตามลักษณะ
ในสมัยก่อนผู้ปลูกโกสนจะใช้ดินโคนกกไผ่ หรือที่เรียกว่า “ดินขุยไผ่” มาสุมไฟ โดยขุดดินโคนกกไผ่มากองรวมกันไว้
แล้วใช้ใบไม้ใบหญ้าแห้งๆ กลบดินโคนกอไผ่นั้น
เอาไฟจุดเผาใบหญ้าใบไม้แห้งนั้นให้ลุกเป็นทั่วๆ กัน แล้วใช้ดินธรรมดากลบทับอีกทีนึง
ปล่อยให้ใบไม้ใบหญ้าแห้งนั้น คุกรุ่นไหม้ต่อไป โดยสุมไฟทิ้งไว้อย่างนั้น
จนไฟไหม้ใบหญ้าใบไม้แห้งนั้นๆ หมดดีแล้ว
จึงรื้อกองดินโคนกอไผ่ที่สุมดีแล้วนั้นออกมาตากแดด
อีกครั้งก่อนใช้ปลูกโกสนเช่นเดียวกับที่คนเก่าๆ ใช้ดินโคนมะขามมาสุมปลูกบอน
ท่านว่า จะทำให้โกสนและบอนที่ใช้ดินดังกล่าวแล้วปลูกได้ผลงดงามดีมาก
สีไม่ตกและรูปร่างลักษณะใบก็เป็นไปตามพันธุ์ของมันดีกว่าดินที่ใช้ปลูกโดยผสมดินโดยวิธีอื่นๆ
มาก
แต่ในปัจจุบันนี้ดินที่ใช้ปลูกโกสนในกระถางกันโดยทั่วๆ ไปแล้วก็ใช้ ดินที่ทำขึ้นจากขี้โคลนหรือเลนจากท้องร่อง นำขึ้นมาตากแห้งหรือใช้หน้าดินจากแห่ลงที่เชื่อถือได้แถวๆอยุธยาเป็นต้นนำมาตากแห้งบดให้เป็นก้อนไม่ต้องเล็กมากนักถ้าเล็กมากดินจะละลายไวทำให้ดินแน่นและระบายน้ำได้ไม่ดีแฉะตายได้ง่าย เมื่อได้ดินเป็นก้อนตามที่ต้องการแล้วจึงนำกาบมะพร้าวสับละเอียดและใบก้ามปูผุผสมครุกเค้าให้เข้ากันแล้วจึงนำไปปลูกโกสน ถ้าหากดินโคลนนั้นมีพวกใบไม้เช่น ใบทองหลางผุๆ น้อย ก็ใช้หญ้าคาแห้งสับเป็นท่อนๆ หมักลงไปกับโคลนหมัก และนำมาตากแดดจนแห้งดีแล้วจึงรอกออกนำไปผสมกาบมะพร้าวสับละเอียดแล้วนำไปปลูกโกสนเช่นกัน เวลาปลูกอาจใช้ปุ๋ยคลอกซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีระลายช้าผสมลงไปด้วยก็ได้ ปรากฏว่าได้ผลดีพอใช้และงามดีเหลือเกิน ใน บางท่านที่ไม่สะดวกที่จะทำเองก็ไปซื้อแบบสำเร็จรูป มาปลูกได้เลยแต่ต้องเลือกผู้ผลิตที่เชื่อถือได้แถวๆย่านเมืองนนท์ก็มีอยู่หลายเจ้า
เมื่อโกสนแตกรากออกหากินได้ดีในดินกระถางดีแล้ว ก็ให้ปุ๋ยกระดูกป่นน้ำรดให้บ้างโดยใช้ปุ๋ยคอกหมักแช่น้ำและเอาน้ำจากปุ๋ยคอกที่หมักผสมกับน้ำธรรมดารดในกระถาง ถ้าหากจะใช้ปุ๋ยพิเศษที่มีแร่ธาตุอาหารสมบูรณ์ในปุ๋ยผสมทางเคมีแล้ว ก็ให้ในรูปปุ๋ยน้ำและใช้อย่างเจือจางสัปดาห์ละครั้งหรือสองสัปดาห์ต่อหนึ่งครั้ง ถ้าให้ต้นโกสนสมบูรณ์มากขึ้นก็ให้ผสมสาหร่ายทะเลลงไปช่วงฉีดพ่นปุ๋ยน้ำได้เลย การฉีดผ่นสาหร่ายทะเลควรฉีดในช่วงเช้าไม่ควรฉีดช่วงแดดจัดและควรฉีดให้หมดภายใน 2ชั่วโมง โกสนชอบแสงแดดรำไรหรือ แสงแดด50 % การรดน้ำโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับสภาพดินที่ใช้ปลูกในกระถาง
ถ้าปลูกใหม่ดินโปร่งระบายน้ำได้ดีรดน้ำวันระครั้งก็ได้ ปลูกไปได้สักระยะหนึ่งควรรดน้ำวันเว้นวัน ทั้งนี้ให้สังเกตุสภาพดินเป็นหลัก
แต่ในปัจจุบันนี้ดินที่ใช้ปลูกโกสนในกระถางกันโดยทั่วๆ ไปแล้วก็ใช้ ดินที่ทำขึ้นจากขี้โคลนหรือเลนจากท้องร่อง นำขึ้นมาตากแห้งหรือใช้หน้าดินจากแห่ลงที่เชื่อถือได้แถวๆอยุธยาเป็นต้นนำมาตากแห้งบดให้เป็นก้อนไม่ต้องเล็กมากนักถ้าเล็กมากดินจะละลายไวทำให้ดินแน่นและระบายน้ำได้ไม่ดีแฉะตายได้ง่าย เมื่อได้ดินเป็นก้อนตามที่ต้องการแล้วจึงนำกาบมะพร้าวสับละเอียดและใบก้ามปูผุผสมครุกเค้าให้เข้ากันแล้วจึงนำไปปลูกโกสน ถ้าหากดินโคลนนั้นมีพวกใบไม้เช่น ใบทองหลางผุๆ น้อย ก็ใช้หญ้าคาแห้งสับเป็นท่อนๆ หมักลงไปกับโคลนหมัก และนำมาตากแดดจนแห้งดีแล้วจึงรอกออกนำไปผสมกาบมะพร้าวสับละเอียดแล้วนำไปปลูกโกสนเช่นกัน เวลาปลูกอาจใช้ปุ๋ยคลอกซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีระลายช้าผสมลงไปด้วยก็ได้ ปรากฏว่าได้ผลดีพอใช้และงามดีเหลือเกิน ใน บางท่านที่ไม่สะดวกที่จะทำเองก็ไปซื้อแบบสำเร็จรูป มาปลูกได้เลยแต่ต้องเลือกผู้ผลิตที่เชื่อถือได้แถวๆย่านเมืองนนท์ก็มีอยู่หลายเจ้า
เมื่อโกสนแตกรากออกหากินได้ดีในดินกระถางดีแล้ว ก็ให้ปุ๋ยกระดูกป่นน้ำรดให้บ้างโดยใช้ปุ๋ยคอกหมักแช่น้ำและเอาน้ำจากปุ๋ยคอกที่หมักผสมกับน้ำธรรมดารดในกระถาง ถ้าหากจะใช้ปุ๋ยพิเศษที่มีแร่ธาตุอาหารสมบูรณ์ในปุ๋ยผสมทางเคมีแล้ว ก็ให้ในรูปปุ๋ยน้ำและใช้อย่างเจือจางสัปดาห์ละครั้งหรือสองสัปดาห์ต่อหนึ่งครั้ง ถ้าให้ต้นโกสนสมบูรณ์มากขึ้นก็ให้ผสมสาหร่ายทะเลลงไปช่วงฉีดพ่นปุ๋ยน้ำได้เลย การฉีดผ่นสาหร่ายทะเลควรฉีดในช่วงเช้าไม่ควรฉีดช่วงแดดจัดและควรฉีดให้หมดภายใน 2ชั่วโมง โกสนชอบแสงแดดรำไรหรือ แสงแดด50 % การรดน้ำโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับสภาพดินที่ใช้ปลูกในกระถาง
ถ้าปลูกใหม่ดินโปร่งระบายน้ำได้ดีรดน้ำวันระครั้งก็ได้ ปลูกไปได้สักระยะหนึ่งควรรดน้ำวันเว้นวัน ทั้งนี้ให้สังเกตุสภาพดินเป็นหลัก
การเตรียมดินและส่วนผสมนั้นมีส่วนประกอบหลักๆ
ดังต่อไปนี้
1. ดินร่วน ตากแห้งเป็นหน้าดินก้อนขนาดเล็กๆ เหมาะสำหรับผสม
2. กาบมะพร้าวสับละเอียด
3. หญ้าไทรหรือหญ้าคา ตากแห้งสับเป็นท่อนๆ
4. ใบก้ามปู หรือใบทองหลางซึ่งหายากในปัจจุบัน
5. เปลือกถั่วลิสง
6. ขุยมะพร้าว
7. ตอมะพร้าวผุ
8. ปุ๋ยคอกเก่าๆเช่นมูลโคนม
9. กระดูกป่น
10. ยากันเชื้อรา
1. ดินร่วน ตากแห้งเป็นหน้าดินก้อนขนาดเล็กๆ เหมาะสำหรับผสม
2. กาบมะพร้าวสับละเอียด
3. หญ้าไทรหรือหญ้าคา ตากแห้งสับเป็นท่อนๆ
4. ใบก้ามปู หรือใบทองหลางซึ่งหายากในปัจจุบัน
5. เปลือกถั่วลิสง
6. ขุยมะพร้าว
7. ตอมะพร้าวผุ
8. ปุ๋ยคอกเก่าๆเช่นมูลโคนม
9. กระดูกป่น
10. ยากันเชื้อรา
ส่วนผสมนั้นอยากจะพลิกแพลงการใช้แบบสูตรใครสูตรมันไม่ตายตัว
วิธีที่ 1
1. ดินร่วน 5 ส่วน
2. ดินใบทองหลางหรือใบก้ามปู 2 ส่วน
3. หญ้าไทรสับ 1 ส่วน
4. กาบมะพร้าวสับละเอียด 2 ส่วน
5. ขุยมะพร้าว1 ส่วน
6. ปุ๋ยคอก มูลโคนม1ส่วน
วิธีที่ 2
1. ดินร่วน 5 ส่วน
2. ดินตอมะพร้าวผุ 2 ส่วน
3. มูลโคนม 1 ส่วน
4. หญ้าคา 1 ส่วน
5. กาบมะพร้าวสับละเอียด 1 ส่วน
วิธีที่ 3
1. ดินร่วน 5 ส่วน
2. เปลือกถั่ว 1 ส่วน
3. ดินใบก้ามปู 1 ส่วน
4. กาบมะพร้าวสับละเอียด 2 ส่วน
5. ขุยมะพร้าว 1 ส่วน
วิธีที่4
1.ดินร่วน 5 ส่วน
2.ดินใบก้ามปู 2 ส่วน
3.กาบมะพร้าวสับละเอียด 2 ส่วน
4.กระดูกป่น 1 ส่วน
วิธีที่ 1
1. ดินร่วน 5 ส่วน
2. ดินใบทองหลางหรือใบก้ามปู 2 ส่วน
3. หญ้าไทรสับ 1 ส่วน
4. กาบมะพร้าวสับละเอียด 2 ส่วน
5. ขุยมะพร้าว1 ส่วน
6. ปุ๋ยคอก มูลโคนม1ส่วน
วิธีที่ 2
1. ดินร่วน 5 ส่วน
2. ดินตอมะพร้าวผุ 2 ส่วน
3. มูลโคนม 1 ส่วน
4. หญ้าคา 1 ส่วน
5. กาบมะพร้าวสับละเอียด 1 ส่วน
วิธีที่ 3
1. ดินร่วน 5 ส่วน
2. เปลือกถั่ว 1 ส่วน
3. ดินใบก้ามปู 1 ส่วน
4. กาบมะพร้าวสับละเอียด 2 ส่วน
5. ขุยมะพร้าว 1 ส่วน
วิธีที่4
1.ดินร่วน 5 ส่วน
2.ดินใบก้ามปู 2 ส่วน
3.กาบมะพร้าวสับละเอียด 2 ส่วน
4.กระดูกป่น 1 ส่วน
วิธีที่5 เป็นวิธีที่นิยมใช้กันทั่วไป
1.ดินร่วน 5 ส่วน
2.ดินใบก้ามปู 2 ส่วน
3.กาบมะพร้าวสับละเอียด 2 ส่วน
4.มูลโคนม 1 ส่วน
5.ยากันเชื้อราอัตตราส่วนให้ใช้ตามฉลากยา
แต่ละวิธีนั้นนำมาเคล้าให้เข้ากันสามารถนำไปปลูกได้เลย ในส่วนของกระดูกป่นนั้นนิยมนำ
ไปใส่ลงกระถางหลังการปลูกแล้ว เพราะจะไม่สิ้นเปลืองมากนัก
1.ดินร่วน 5 ส่วน
2.ดินใบก้ามปู 2 ส่วน
3.กาบมะพร้าวสับละเอียด 2 ส่วน
4.มูลโคนม 1 ส่วน
5.ยากันเชื้อราอัตตราส่วนให้ใช้ตามฉลากยา
แต่ละวิธีนั้นนำมาเคล้าให้เข้ากันสามารถนำไปปลูกได้เลย ในส่วนของกระดูกป่นนั้นนิยมนำ
ไปใส่ลงกระถางหลังการปลูกแล้ว เพราะจะไม่สิ้นเปลืองมากนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น